ส่งบทความถึงคุณทางอีเมล (Email Subscription)
Smile of Life Chat
List Blog of Fahsai Family
วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
คุณค่าของตัวเรา
ในท่ามกลางความมืดมิดแสงสว่างจากตัวเราจะเจิดจรัสเสมอ!
วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
สุภาษิตสอนใจ "ภรรยา 4 คน"
ชายคนหนึ่งมีภรรยา อยู่ 4 คน
* ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจตลอดอยากได้อะไร เขาหาให้ทุกอย่าง
* ภรรยาคนที่ 2 เขารักมาก เขาจะทำทุกสิ่ง ทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้ และจะไปหาภรรยาคนนี้เสมอ
* ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร แวะไปหาบางเป็นครั้งคราว
* ภรรยาคนที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไปหา ไม่คิดถึงเลย ด้วยซ้ำ
ต่อมาชาย คนนี้ไปกระทำความผิดร้ายแรงและถูกจับ ต้องถูกประหารชีวิต ก่อนที่จะถูกประหาร เขาขอร้องว่า เขาขอกลับบ้าน เพื่อไปร่ำลาภรรยาสุดที่รักซักครั้ง ผู้คุมเห็นใจจึงอนุญาตเมื่อกลับมาถึงบ้าน เขารีบตรงไปหาภรรยาคนที่ 1 เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟัง และถามภรรยา คน ที่ 1 ว่า
" ถ้าเขาต้องตายภรรยาคนที่ 1 จะทำอย่าง ไร? "
* ภรรยาคนที่ 1 ตอบน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ถ้าเธอตาย เราก็จบกัน”
คำตอบที่ได้รับ เหมือนสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยง!! ลงมาที่เขาอย่างจัง เขารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
นึกเสียดาย ว่าเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เลย จากนั้นเขาก็ ไปหา ภรรยาคนที่ 2 ด้วยอาการเศร้าโศก เล่า เรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง และถามคำถามเดิมกับภรรยาคนที่ 2 ว่า
" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 2 จะทำอย่างไร? "
* ภรรยาคนที่ 2 ก็ ตอบอย่างหน้าตาเฉย ว่า "ถ้าเธอตาย ฉันจะมีใหม่ "
เหมือนสายฟ้า!! ผ่าลงมาซ้ำที่เขา อย่างจัง เขารู้สึกเสียใจมาก และนึกเสียดายว่าที่ผ่านมาเขาไม่ควร ทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เช่นกัน เขาเดินคอตกมาหาภรรยาคนที่ 3 เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง และถาม ภรรยา คนที่ 3 ว่า
"ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 3 จะทำอย่างไร? "
* ภรรยาคนที่ 3 ตอบว่า "ถ้าเธอตาย ฉันจะไปส่ง "
ทำให้เขาคลายความ เศร้าโศกขึ้นมาได้บ้างอย่างน้อยก็ ยังมีภรรยาที่จริงใจกับเขาก่อนกลับไปรับโทษ เขานึกขึ้นมาได้ว่ามีภรรยาอีกคน ซึ่งไม่เคยไปหาเลย จึงไปหา ภรรยาคนที่ 4 และถามว่า
" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 4 จะทำอย่าง ไร?"
* ภรรยาคนที่ 4 ตอบว่า " ถ้าเธอตาย ฉันจะตามไป ด้วย "
แทนที่เขาจะดีใจกลับนึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก เพราะ...มัน สายเกินไปเสียแล้ว ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่เขาไม่เคยเห็นค่าของภรรยาคนนี้ แต่ภรรยาคนนี้ไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะติดตามเขาไปอยู่ด้วย แล้วชายคนนี้ก็กลับไปรับโทษประหาร และเมื่อเขาตาย ภรรยาคนที่ 4 ก็ตายตามไป ด้วย...เราทุกคนก็ มีภรรยา 4 คน
"มีคำถามว่า ภรรยาทั้ง 4 คนเป็นใคร?"
ทีนี้เรามาดูกันว่า ภรรยาคน ที่ 1, 2, 3 และ 4 เป็นใครกันบ้าง
*ภรรยาคน ที่ 1 ร่างกายของเรา เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่เราจะบำรุงบำเรอด้วยสิ่งต่างๆอยากได้อะไรก็หาให้ แต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา เมื่อเราตาย ร่างกายมันก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้ ท่อนหนึ่งเท่านั้น
*ภรรยาคน ที่ 2 ทรัพย์สมบัติ เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เราจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มันมา แต่พอเราตาย มันกลับไม่ไปกับเรา แต่ไปเป็นของคนอื่น
*ภรรยาคนที่ 3 พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติ พี่น้อง เพราะพอเราตาย เขาจะทำศพให้เรา ทำบุญไปให้ แปลว่า เขาแค่ไปส่งเราเท่านั้น
*ภรรยาคนที่ 4 บุญกับบาป เมื่อเราตายไป เราไม่สามารถเอาอะไรไปด้วยได้ มีเพียงแค่บุญกับบาปเท่านั้น ที่จะตามเราไป ......
* ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจตลอดอยากได้อะไร เขาหาให้ทุกอย่าง
* ภรรยาคนที่ 2 เขารักมาก เขาจะทำทุกสิ่ง ทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้ และจะไปหาภรรยาคนนี้เสมอ
* ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร แวะไปหาบางเป็นครั้งคราว
* ภรรยาคนที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไปหา ไม่คิดถึงเลย ด้วยซ้ำ
ต่อมาชาย คนนี้ไปกระทำความผิดร้ายแรงและถูกจับ ต้องถูกประหารชีวิต ก่อนที่จะถูกประหาร เขาขอร้องว่า เขาขอกลับบ้าน เพื่อไปร่ำลาภรรยาสุดที่รักซักครั้ง ผู้คุมเห็นใจจึงอนุญาตเมื่อกลับมาถึงบ้าน เขารีบตรงไปหาภรรยาคนที่ 1 เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟัง และถามภรรยา คน ที่ 1 ว่า
" ถ้าเขาต้องตายภรรยาคนที่ 1 จะทำอย่าง ไร? "
* ภรรยาคนที่ 1 ตอบน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ถ้าเธอตาย เราก็จบกัน”
คำตอบที่ได้รับ เหมือนสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยง!! ลงมาที่เขาอย่างจัง เขารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
นึกเสียดาย ว่าเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เลย จากนั้นเขาก็ ไปหา ภรรยาคนที่ 2 ด้วยอาการเศร้าโศก เล่า เรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง และถามคำถามเดิมกับภรรยาคนที่ 2 ว่า
" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 2 จะทำอย่างไร? "
* ภรรยาคนที่ 2 ก็ ตอบอย่างหน้าตาเฉย ว่า "ถ้าเธอตาย ฉันจะมีใหม่ "
เหมือนสายฟ้า!! ผ่าลงมาซ้ำที่เขา อย่างจัง เขารู้สึกเสียใจมาก และนึกเสียดายว่าที่ผ่านมาเขาไม่ควร ทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เช่นกัน เขาเดินคอตกมาหาภรรยาคนที่ 3 เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง และถาม ภรรยา คนที่ 3 ว่า
"ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 3 จะทำอย่างไร? "
* ภรรยาคนที่ 3 ตอบว่า "ถ้าเธอตาย ฉันจะไปส่ง "
ทำให้เขาคลายความ เศร้าโศกขึ้นมาได้บ้างอย่างน้อยก็ ยังมีภรรยาที่จริงใจกับเขาก่อนกลับไปรับโทษ เขานึกขึ้นมาได้ว่ามีภรรยาอีกคน ซึ่งไม่เคยไปหาเลย จึงไปหา ภรรยาคนที่ 4 และถามว่า
" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 4 จะทำอย่าง ไร?"
* ภรรยาคนที่ 4 ตอบว่า " ถ้าเธอตาย ฉันจะตามไป ด้วย "
แทนที่เขาจะดีใจกลับนึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก เพราะ...มัน สายเกินไปเสียแล้ว ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่เขาไม่เคยเห็นค่าของภรรยาคนนี้ แต่ภรรยาคนนี้ไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะติดตามเขาไปอยู่ด้วย แล้วชายคนนี้ก็กลับไปรับโทษประหาร และเมื่อเขาตาย ภรรยาคนที่ 4 ก็ตายตามไป ด้วย...เราทุกคนก็ มีภรรยา 4 คน
"มีคำถามว่า ภรรยาทั้ง 4 คนเป็นใคร?"
ทีนี้เรามาดูกันว่า ภรรยาคน ที่ 1, 2, 3 และ 4 เป็นใครกันบ้าง
*ภรรยาคน ที่ 1 ร่างกายของเรา เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่เราจะบำรุงบำเรอด้วยสิ่งต่างๆอยากได้อะไรก็หาให้ แต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา เมื่อเราตาย ร่างกายมันก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้ ท่อนหนึ่งเท่านั้น
*ภรรยาคน ที่ 2 ทรัพย์สมบัติ เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เราจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มันมา แต่พอเราตาย มันกลับไม่ไปกับเรา แต่ไปเป็นของคนอื่น
*ภรรยาคนที่ 3 พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติ พี่น้อง เพราะพอเราตาย เขาจะทำศพให้เรา ทำบุญไปให้ แปลว่า เขาแค่ไปส่งเราเท่านั้น
*ภรรยาคนที่ 4 บุญกับบาป เมื่อเราตายไป เราไม่สามารถเอาอะไรไปด้วยได้ มีเพียงแค่บุญกับบาปเท่านั้น ที่จะตามเราไป ......
นิทานจีนโบราณเรื่อง " ถังน้ำ 2 ใบ "
ชายจีนคนหนึ่งแบกถังน้ำสองใบไว้บนบ่าเพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร ถังน้ำใบหนึ่งมีรอยแตก ในขณะที่อีกใบหนึ่งไร้รอยตำหนิ และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล จากลำธารกลับสู่บ้าน จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยแตกเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 2 ปีเต็มที่คนตักน้ำสามารถตักน้ำกลับมาบ้านได้หนึ่งถังครึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าถังน้ำใบที่ไม่มีตำหนิจะรู้สึกภาคภูมิใจ ในผลงานเป็นอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันถังน้ำที่มีรอยแตกก็รู้สึก อับอายต่อความบกพร่องของตัวเอง มันรู้สึกโศกเศร้ากับการที่มันสามารถทำหน้าที่ได้เพียงครึ่งเดียวของจุดประสงค์ ที่มันถูกสร้างขึ้นมา หลังจากเวลา 2 ปี ที่ถังน้ำที่มีรอยแตกมองว่าเป็นความล้มเหลวอันขมขื่น วันหนึ่งที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า ' ข้ารู้สึกอับอายตัวเองเป็นเพราะรอยแตกที่ด้านข้างของตัวข้า
ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมาตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน ' คนตักน้ำตอบว่า ' เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบานอยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่ง เพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่ ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงข้างทางเดินด้านของเจ้าและทุกวันที่เราเดินกลับ ... เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้สวย ๆ เหล่านั้นกลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว ... เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้ ' คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่รอยตำหนิและข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจ และกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้ สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคนในแบบที่เขาเป็น และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง
"ทุกสิ่งไม่ได้มีเพียงด้านเดียวเสมอ จงมองโลกในหลายๆ ด้าน เพราะคนเรานั้นล้วนมีข้อบกพร่องด้วยกันทุกคน "
ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมาตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน ' คนตักน้ำตอบว่า ' เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบานอยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่ง เพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่ ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงข้างทางเดินด้านของเจ้าและทุกวันที่เราเดินกลับ ... เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้สวย ๆ เหล่านั้นกลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว ... เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้ ' คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่รอยตำหนิและข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจ และกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้ สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคนในแบบที่เขาเป็น และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง
"ทุกสิ่งไม่ได้มีเพียงด้านเดียวเสมอ จงมองโลกในหลายๆ ด้าน เพราะคนเรานั้นล้วนมีข้อบกพร่องด้วยกันทุกคน "
วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
นิสัย 7 อย่างของผู้ประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างเช่น บิลล์เกตส์
1.มีความรับผิดชอบต่อเป้าหมายของตัวเอง เราต้องเลือกในสิ่งที่เราชอบที่เราถนัด พัฒนาตนเอง และตั้งใจทำมันจริงๆมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราสนใจอยู่เพราะสิ่งนี้สามารถจะผลักดันให้ชีวิตเราประสบความสำเร็จได้
2.เป็นคนที่เริ่มต้นด้วยจุดสุดท้ายคือ ก่อนจะทำอะไรคุณจะต้องมองให้เห็นถึงภาพผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ทำสิ่งนั้นลงไปแล้วได้นั่นคือการมีวิสัยทัศน์มองสิ่งต่างๆอย่างมีเหตุมีผล มีข้อมูลประกอบ..สิ่งนี้ช่วยให้คุณประเมินสิ่งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ชอบจัดลำดับความสำคัญของงาน แล้วทำทันทีเราต้องวางแผนว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่มีผลต่อชีวิตของคุณและอะไรที่ไม่สำคัญ เราไม่ควรเสียเวลากับสิ่งเหล่านั้น เลือกทำงานที่สำคัญที่มีผลต่อชีวิตของคุณก่อน..
4.ชอบคิดแบบ "Win-Winไม่มีใครอยากเสียเปรียบในขณะที่คุณได้เปรียบ พยายามหาทางออกให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
5.ไม่กลัวการผิดพลาด แต่เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และแก้ไขการผิดพลาด..การล้มเหลว..เป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาดเมื่อผิดพลาด..ผู้ที่ประสบความสำเร็จก็จะคิดว่าเป็นเรื่องปกติเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับปรุงพัฒนาตนเองไม่แก้ตัว แต่แก้ไข แล้วชีวิตของคุณก็จะเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น
6.ต้องมีนิสัยเปิดใจรับฟังผู้อื่น..ในสิ่งที่คุณไม่รู้..สิ่งที่สร้างสรรค์เพราะคุณไม่ใช่คนที่คิดได้ดีที่สุดเสมอไปซะทุกเรื่อง จงยอมรับมันซะ มันเป็นเรื่องจริงแล้วจะให้ทำไง..ก็แค่เปิดใจเรียนรู้..จากคนอื่นในสิ่งที่คุณไม่รู้..เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเองเพราะบางครั้งคนอื่นก็เสนอแนวคิดได้ดี และถูกต้องมากกว่าคุณ..มันเป็นเรื่องธรรมดา
7.พัฒนาความรู้และทักษะของคุณให้อยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญการมีความรู้..และทักษะแบบงูๆปลาๆ..ไม่ได้ช่วยอะไรคุณซักเท่าไหร่
“ความสำเร็จนั้น..พระเจ้ามอบให้กับทุกๆคนแล้วขึ้นอยู่ว่าคุณอยากได้หรือไม่...?
1.มีความรับผิดชอบต่อเป้าหมายของตัวเอง เราต้องเลือกในสิ่งที่เราชอบที่เราถนัด พัฒนาตนเอง และตั้งใจทำมันจริงๆมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราสนใจอยู่เพราะสิ่งนี้สามารถจะผลักดันให้ชีวิตเราประสบความสำเร็จได้
2.เป็นคนที่เริ่มต้นด้วยจุดสุดท้ายคือ ก่อนจะทำอะไรคุณจะต้องมองให้เห็นถึงภาพผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ทำสิ่งนั้นลงไปแล้วได้นั่นคือการมีวิสัยทัศน์มองสิ่งต่างๆอย่างมีเหตุมีผล มีข้อมูลประกอบ..สิ่งนี้ช่วยให้คุณประเมินสิ่งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ชอบจัดลำดับความสำคัญของงาน แล้วทำทันทีเราต้องวางแผนว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่มีผลต่อชีวิตของคุณและอะไรที่ไม่สำคัญ เราไม่ควรเสียเวลากับสิ่งเหล่านั้น เลือกทำงานที่สำคัญที่มีผลต่อชีวิตของคุณก่อน..
4.ชอบคิดแบบ "Win-Winไม่มีใครอยากเสียเปรียบในขณะที่คุณได้เปรียบ พยายามหาทางออกให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
5.ไม่กลัวการผิดพลาด แต่เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และแก้ไขการผิดพลาด..การล้มเหลว..เป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาดเมื่อผิดพลาด..ผู้ที่ประสบความสำเร็จก็จะคิดว่าเป็นเรื่องปกติเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับปรุงพัฒนาตนเองไม่แก้ตัว แต่แก้ไข แล้วชีวิตของคุณก็จะเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น
6.ต้องมีนิสัยเปิดใจรับฟังผู้อื่น..ในสิ่งที่คุณไม่รู้..สิ่งที่สร้างสรรค์เพราะคุณไม่ใช่คนที่คิดได้ดีที่สุดเสมอไปซะทุกเรื่อง จงยอมรับมันซะ มันเป็นเรื่องจริงแล้วจะให้ทำไง..ก็แค่เปิดใจเรียนรู้..จากคนอื่นในสิ่งที่คุณไม่รู้..เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเองเพราะบางครั้งคนอื่นก็เสนอแนวคิดได้ดี และถูกต้องมากกว่าคุณ..มันเป็นเรื่องธรรมดา
7.พัฒนาความรู้และทักษะของคุณให้อยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญการมีความรู้..และทักษะแบบงูๆปลาๆ..ไม่ได้ช่วยอะไรคุณซักเท่าไหร่
“ความสำเร็จนั้น..พระเจ้ามอบให้กับทุกๆคนแล้วขึ้นอยู่ว่าคุณอยากได้หรือไม่...?
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)